Empathize People with Design Thinking : เข้าใจคนด้วย Design Thinking
Design Thinking ถือเป็นกระบวนการการเรียนรู้ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน กระบวนการทำงานของ Design Thinking แบ่งออกเป็น 5 Step ด้วยกัน ได้แก่ Empathize, Define, Ideate, Prototype, Test
ซึ่งในบทความนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะขั้นตอน Empathize หรือ “กระบวนการเอาใจเขามาใส่ใจเรา” โดยมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน
การรับฟัง — การฟังให้ได้ยินเสียงจากหัวใจของเค้าจริงๆ เราต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Beginner’s Mindset เรื่องของเราไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป ถอดความเป็นตัวเองออกให้หมด แล้วฟังเขาด้วยหัวใจของเรา วิธีการทำให้คนเล่าเรื่องของตัวเอง คือ การทำเค้ารู้สึกว่ามี safe space ความยากคือการเจาะกำแพงใจของเค้า
“Listen to the heart and the meaning”
การสังเกต — เราต้องหัดเป็นคนช่างเอ๊ะ หมั่นสังเกตพฤติกรรม หรือ ความผิดปกติ อยู่ตลอดแล้วเราจะได้รู้ปัญหาที่แท้จริงของเค้า
การร่วมประสบการณ์ — ตัวอย่างของการร่วมประสบการณ์ที่ดีที่สุดเพื่อการออกแบบ คงต้องนึกถึง แพทริเชีย มัวร์ ผู้บุกเบิกการออกแบบเพื่อผู้สูงวัย เธอใช้เวลาสามปี (ค.ศ.1979–1982) ทำการทดลองพิเศษขึ้นมาอย่างหนึ่ง โดยเธอปลอมตัวเป็นหญิงชราวัย 80กว่าเดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา(ดูวิดีโอเกี่ยวกับการทดลองของแพทริเชียได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=B4eOyBki3cE) การทดลองครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปลอมตัวชนิดผิวเผิน เช่น แต่งหน้าแก่หรือย้อมผมขาวเท่านั้น แต่เธอลงทุนเอาเทปมาพันนิ้วมือให้ขยับได้ลำบาก พันธนาการตัวเองบางส่วนเพื่อลดความคล่องแคล่วของร่างกาย ฯลฯโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้าใจการใช้ชีวิตของผู้สูงวัยให้ได้มากที่สุด ทั้งในแง่ความสะดวกส่วนตัว และการสังเกตปฏิกิริยาจากสังคมโดยรอบที่มีต่อคนชราด้วย
“Design product from a Human Story”
ผมคิดว่าทั้งสามวิธีในการ Empathize หรือ เข้าใจคนนั้น สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกคนรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า, เจ้านาย, ลูกน้อง, ครอบครัว หรือแม้แต่ชีวิตคู่
แปลว่า Design Thinking ไม่ได้จำกัดว่าจะใช้ได้กับงานหรือการสร้างนวัตกรรมเท่านั้น แต่สามารถใช้ออกแบบความสัมพันธ์หรือแม้แต่การออกแบบชีวิตได้อีกด้วย
“Look at life as a Designer”
Reference